“จตุพร” เชื่อ “สุชาติ” พลิกชนะโหวตลับ นั่งประธานสภา

ยังคงไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนสำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อยู่ระหว่างการพูดคุยขอพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม

ล่าสุดนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน วิเคราะห์ถึงกรณีศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาว่า การเลือกประธานสภาฯ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เดิมทีเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนอย่างแข็งขันว่าพรรคก้าวไกลจะต้องกินแบ่ง ไม่กินรวบ เมื่อได้ตำแหน่งนายกฯ แล้ว ตำแหน่งประธานสภาฯ จะต้องเป็นของเพื่อไทย

แต่ 1 วัน ก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส. 500 คน นายประเสริฐ และนายภูมิธรรม กลับบอกว่าตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น ควรจะเป็นพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง คือ ก้าวไกล ซึ่งตรงข้ามกับที่ทั้งสองคนเคยแสดงจุดยืนมาตั้งแต่ต้น ตัวเองเป็นคนพรรคเพื่อไทยเก่า รู้ว่าการพูดของนายภูมิธรรมทั้งสองเหตุการณ์นี้ในเรื่องเดียวกัน จะมีที่มาที่ไป นอกจากนี้ยังได้เห็น นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาตำหนินายภูมิธรรมอย่างรุนแรง

นายจตุพร บอกว่า ตัวเองเคยบอกตั้งแต่ต้นว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ จะเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และต้องเป็นศิษย์เก่าพรรคพลังประชารัฐ ชื่อสุชาติ ตันเจริญ แล้วถามว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไรในเมื่อพรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนแบบนี้ไปแล้ว แต่การเสนอชื่อ สุชาติจะไม่เกิดขึ้นจากพรรคเพื่อไทย จะเกิดขึ้นจากสองกรณี คือพรรคเล็กเสนอ และอีกกรณีคือหักดิบเลย พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเอง

จตุพร ยังบอกอีกว่า เมื่อการโหวตประธานสภาฯ เป็นการโหวตแบบลับก็เชื่อว่า สุชาติจะชนะพรรคก้าวไกล จากนั้นร่องรอยความขัดแย้งระหว่างเพื่อไทยและก้าวไกลก็จะเกิดขึ้น รวมไปถึงมวลชนที่เชียร์ทั้งสองฝ่ายด้วย

และผลพวงจากการเลือกประธานสภานำไปสู่ความขัดแย้ง ก็จะไปเข้าทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เคยบอกว่า "จะก้าวข้ามความขัดแย้ง" และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร จะได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จากนี้อาจจะเริ่มมีความวุ่นวายเกิดขึ้นของมวลชน และหากสถานการณ์รุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และยังดำรงตำแหน่งต่อ